วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบการทำงานของ Web Browser และ Search Engine









Web browser คืออะไร

จากนิยามของ Web browser ที่ได้ข้างต้น รวมทั้งที่ผมได้ให้ไว้เล่นๆ ด้วย จะเห็นได้ว่ามีความหมายที่คล้ายๆ กัน คือ
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ

อย่างไรก็ตาม จากนิยามหรือความหมายของ Web browser ที่ผมเจอในเว็บต่างๆ ผมมองว่ามี 2 ประเด็นที่หลายๆ คนอาจจะยังสงสัยและอาจเป็นสาเหตุให้ตีความหรือเข้าใจว่า Web browser คืออะไร แตกต่างหรือคลาดเคลื่อนกันไป คือ
  • การใช้คำ สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตที่อาจจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจได้ว่า อินเทอร์เน็ต ก็คือ WWW (World Wide Web) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะคำว่า WWW เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางกว่า และยังรวมเอาการใช้งานหรือหรือบริการอื่นๆ นอกจาก WWW เอาไว้ด้วย เช่น อีเมล์ (e-mail) แชท (Chat) IRC และ FTP เป็นต้น
  • การใช้คำ ภาษา HTML” ที่ผมว่ามันยากไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป หรือบางคนที่รู้มากขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะสงสัยอีกว่าแล้วภาษา Java, Javascript, Asp, Php, CFM หรืออื่นๆ ล่ะมันคืออะไร ซึ่งในที่นี้ ผมขออธิบายให้เข้าใจนิดหน่อยว่า HTML คือภาษาหลักที่ Web browser ใช้แสดงผลหรือแสดงข้อมูลในหน้าเว็บเพจ ส่วนภาษาอื่นๆ นั้นคือภาษาเสริม ที่ทำให้คนเขียนเว็บจัดการข้อมูลและการแสดงผลต่างๆ ได้ดีและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งในการใช้ภาษาเสริมอื่นๆ นั้น ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเพิ่มด้วย เพื่อทำหน้าที่ประมวลผลแล้วแปลผลที่ได้ให้เป็นภาษาหลัก (HTML) ส่งให้ Web browser นำไปแสดงในหน้าเว็บเพจต่อไป ดังนั้น ในการเขียนเว็บไม่ว่าจะใช้ภาษาเสริมอะไรก็ตาม จะต้องใช้ร่วมกับภาษาหลัก (HTML) เสมอ และข้อมูลที่เราเห็นในหน้าเว็บเพจของทุกเว็บไซต์ก็จะถูกแสดงผลด้วยภาษาหลัก หรือ HTML เสมอด้วยเช่นกัน
Web browser คืออะไร ความหมายโดยสรุปสั้นๆ
จากนิยามของ Web browser ที่ผมได้ให้ตามความเข้าใจข้างต้น และจากการค้นหาและอ่านจากเว็บอื่นๆ ผมขอสรุปและให้นิยาม Web browser คืออะไร ดังนี้
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเและติดต่อสื่อ สารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจ ซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า World Wide Web (WWW)


 Web browser มีอะไรบ้าง

 1.Firefox
คือ หลาย ๆ คนที่เล่นเน็ทเป็นเปิดเว็บไซท์เป็นคงจะรู้จักกับคำว่าเว็บบราวเซอร์ หรือโปรแกรมท่องเว็บ ส่วนใหญ่แล้วเราคงจะรู้จักกันแต่ Internet Explorer ของ Microsoft จอมผูกขาด คุณรู้หรือเปล่าว่า IE ที่คุณใช้อยู่นั้น ณ เวลาปัจจุบันมันไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย เพราะว่าทางทีมงานเค้าไม่ได้พัฒนามานานแล้ว ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องถามหา ซึ่ง Firefox นั้นเป็นอินเทอร์เน็ทบราวเซอร์ตัวใหม่ที่จะเข้ามาแข่งกับ IE < Internet Explorer> นำทีมสร้างโดย Mozilla โดยมีนักพัฒนาต่อยอดอยู่ทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติของ Firefox ที่เด่นกว่า IE คือ โปรแกรมมีขนาดเล็กกว่าทำให้การโหลดข้อมูล ทางหน้าเว็บเพจทำได้รวดเร็ว  ใช้งานได้สะดวก  แท็บด้านบนทำให้ทำให้เข้าได้หลายเว็บไซด์พร้อมๆกันโดยไม่ต้องเปิด window ใหม่ อีกทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องอินเทอร์เน็ต เช่น เมนูของGoogle  สำหรับการค้นหาข้อมูล
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Firefox
  • เป็นโปรแกรม Free Download ไม่ต้องตรวจสอบอะไร โหลดมาใช้ได้เลย 
  • ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการดาวโหลดไม่นาน
  • ไม่แฮงค์บ่อย ปลอดภัยจาก spy ware ต่างๆ
  • แก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีทีมงานพัฒนาอยู่ทั่วโลก มีการพัฒนาตลอดเวลา
  • สนับสนุนการใช้งานทั้ง Window MAX OS และ Linux ด้วย
  • มีลูกเล่นต่างๆ มากมาย ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาและการใช้งานได้ตามความถนัดของผู้ใช้ ด้วย themes, extensions ต่างๆ มากมาย
         ข้อเสียของการใช้ Firefox
         1. ปัญหาอมตะใช้ความจำแรมเยอะ โดยเฉพาะพวกชอบลงextensionเยอะ ต้องหาแรมซัก 1GBมาใส่เลย (บางราย 1 GBยังไม่พอเลย) และการเปิดหน้าที่มีscriptเยอะๆก็จะเปลืองทั้งแรมและCPUอย่างเต็มที่  
        2. ตัดคำไทย ปัญหานี้เกิดขึ้นกับbrowserใหม่ทุกตัว เพราะเราใช้ภาษาไม่เหมือนกัน เขียนคำติดเป็นพรืด แถมมีตัวยกตัวลอยอีก (แต่มันสวยกว่าภาษาอังกฤษ) แต่ภาษาอังกฤษจะจบคำนึงก็วรรคที ทำให้ตัดง่าย แต่ของเราไม่รู้ว่าตัดตรงไหน ก็เลยยาวเป็นพรืด เลยขอบจอ ลากscroll barกันสนุกมือเลย แต่ปัญหานี้แก้ได้ด้วยextensionตัดคำไทย ซึ่งทำให้หน่วงการเข้าเว็บประมาณ 2 วินาที แถมขนาดใหญ่ Firefox3ที่คาดว่าจะออกปีหน้ามีระบบตัดคำไทยให้เรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังเป็นAlphaอยู่ แต่ก็ตัดได้แล้ว
    3. สระและวรรณยุกต์ ปัญหานี้ก็ยังแก้ไม่ตกโดยเฉพาะวรรณยุกต์ เพราะถ้ามีสระอีและมีไม้เอกด้วย จะซ้อนกัน บางครั้งสระหรือวรรณยุกต์ก็ไม่ขึ้นซะดื้อๆ ส่วนใหญ่จะเป็นในเว็บบอร์ด ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปในFirefox3
       4. ไม่ซัพพอร์ตdownload manager ใครที่มีโปรแกรมช่วยดาว์นโหลดเช่น flash get idm อยู่คงจะเซ็งไปตามๆกัน เพราะFirefoxจะมองไม่เห็น ไม่เหมือนIE แม้จะเป็นปัญหาเก่าที่ใครๆก็รู้วิธีแก้ แต่มือใหม่คงไม่รู้แน่นอน โดยปัญหานี้แก้ด้วยextension Flash got Extensionตัวนี้เรียกว่าเป็นExtensionสามัญประจำbrowserได้เลย มีแทบทุกเครื่องที่ลงFirefox
        5. แสดงผลตัวอักษรเละ จะพบได้ในมือใหม่ที่พึ่งลงFirefox หรือมือเก่าที่ปรับไม่เป็น ตัวหนังสือจะเละๆ ตัวเล็กๆ บางครั้งก็encodeมั่ว หรือคนที่พึ่งลงfontใหม่แล้วFirefoxจะเปลี่ยนfontนั้นเองด้วย ซึ่งปัญหานี้มีทางแก้
      6. พิมพ์ไทยที่addressหรือช่องsearchไมได้ ใครทีใช้Firefox คงจะเห็นว่ามีช่องsearchที่สามารถเพิ่มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นGoogle Yahoo Wikipedia หรือแม้กระทั้ง long do dict dictionary ของคนไทย แต่เราพิมพ์ไทยในช่องนั้นไม่ได้แล้ว
      7. ฟังเพลงออนไลน์ไม่ได้ จะมีบางเว็บสำหรับฟังเพลงออนไลน์ที่ใช้Firefoxเปิดฟังไมได้ เพราะเว็บพวกนั้นใช้code active X โค้ดล้าสมัยที่Firefoxไม่สนับสนุน เนื่องจากเป็นแหล่งแพร่ไวรัส

 2.Opera
             Opera เป็นเบราว์เซอร์จากนอร์เวย์โดยมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมและเชื่อถือได้ตั้งแต่สงครามเบราว์เซอร์ล่าสุดกับ Microsoft หลังจากที่แข่งขันได้ Opera ในช่วงอาชีพของส่วนใหญ่ของพื้นที่ฝัง, เช่นถนนโทรศัพท์มือถือขี่หมาป่าและกระตือรือร้น counter – พอใจเปิดตัวในระบบเดสก์ทอป
Opera ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2006 และการจัดตั้ง บริษัท ย่อยของจีน R & D ทีมนี้เป็นไอทีและโทรคมนาคมในประเทศจีน CEO Interview กับ Opera และ Opera Song Lin, ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของจีนวัง Lihao จำนวนน้อยยากที่จะจินตนาการ, ผูกขาด Microsoft ในเขตเบราว์เซอร์หลายปีกลุ่มของ infidels"ที่จากโลกล่าสุดได้รับการต่อไปนี้ช่วงกลาง 90s จากเบราเซอร์นอร์เวย์ Opera นี้กับความจริงที่ว่าทนเงียบไป Microsoft เจ้าโลกผูกขาด IE เหล่านี้ไม่ยอมให้เผชิญหน้ากับความมืดเงียบที่ไม่เป็นจริงออกจากจุดประกาย คนเหล่านี้เช่น"ผู้นำศาสนา Apple"นำโดย Steve Jobs of Apple และแฟน Apple ไม่ซ้ำกัน แต่ยังมีผลประโยชน์ ดังนั้นเบราเซอร์โอเปร่าที่มีชื่อเสียงที่รู้จัก
กัน Swiss Army Knife
ข้อดีของการใช้ Opera
1.  เปิด Web ไวรวดเร็ว แม้แต่บน EDGE ก็ยังไว ไม่ต้องรอนาน
2.  ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับ Link เพราะไม่ได้ใช้ libwebcore แต่ใช้ lib ของตัวมันเอง ไม่ต้อง root เครื่อง
3.  สมารถ Upload ไฟล์ได้จาก SD card ได้

ข้อเสียของการใช้ Opera
1. รูปภาพจะหยาบ ใช้ดูรูปได้ไม่ค่อยดี
2.  SET เป็น default browser ไม่ได้
3.เปลือง RAM เยอะ



 3.Safari
จากข้อมูลของทาง Apple.com ก็ได้กล่าวถึงโปรแกรม Safari ว่าเป็นโปรแกรมท่องเว็บไซต์ที่เร็วที่สุด โดยเปรียบเทียบกับ Browser อื่น เช่น Firefox หรือ Internet Explorer แต่ก็เป็นข้อมูลจากทาง Apple.com ซึ่งก็ขอให้ผู้อ่านฟังหูไว้หู อย่าเชื่อข้อมูลของทาง Apple.com มากนัก และจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนใช้งานมาทั้ง Safari Firefox และ Internet Explorer ในความรู้สึกส่วนตัวเห็นว่า Safari เองเร็วกว่า Internet Explorer อย่างเห็นได้ชัด แต่ต่างกับ Firefox เล็กน้อย โดยขั้นตอนการโหลดเว็บของ Safari จะกระตุกสักครู่แล้วมาหมดทีเดียวทั้งหน้าเลย ต่างจาก Firefox ที่จะมีกรอบเหลี่ยมๆ ก่อนแล้วแต่ละส่วนค่อยๆ โหลดมา ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเทคนิคการเขียนโปรแกรมนั้นแตกต่างกัน
ข้อดีของการใช้ Safari
1. โหลดหน้าเว็บเร็วมาก  เร็วกว่า Firefox ซะอีก Safari ได้ชื่อว่าเป็นเบราเซอร์ที่เร็วที่สุดในโลก OMG
2. เล่น JavaScript เร็วกว่าเบราเซอร์อื่นๆทั้งหมดทั้งมวล
3. รองรับ Css animations ซึ่งเบราเซอร์อันอื่นไม่รองรับ
4. รองรับ Css web font
5. มีลุกเล่นเด่น ๆ เจ๋ง ๆ ที่เริดกว่าเบราเซอร์อื่นนิดนึง แต่ลูกเล่นก็ยังไม่เยอะเท่าหมาไฟ
6. สแกนข้อมูลได้รวดเร็ว
7. ไวรัส สปายแวร์ต่าง ๆ ซาฟารีกำจัดได้ดีกว่า IE และ Firefox ซะอีก
ข้อเสียของการใช้ Safari
1. ลุกเล่นยังไม่ค่อยเยอะ โดยรวมแล้วไม่สุ้ Firefox
2. มีปัญหาด้านภาษาไทยเหมือน Chrome
3. กินทรัพยากรของคอมพิวเตอร์คุณค่อนข้างเยอะพอ ๆ กับ IE
4. ฟ้อนต์เพี้ยนเยอะมาก
5. Streaming เข้าขั้นห่วยแตก



 4. Google chrome 
Google Chrome คือ เว็บเบราว์เซอร์ใหม่สำหรับ Windows ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยทาง Google เอง และเป็นเบราว์เซอร์ที่รวมการออกแบบที่เรียบง่ายเข้ากับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเพื่อทำให้เว็บรวดเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น รายละเอียดบางส่วนของ Google Chrome ค้นหาจากแถบที่อยู่ พิมพ์ในแถบที่อยู่ และรับคำแนะนำสำหรับทั้งหน้าการค้นหาและหน้าเว็บ ภาพขนาดเล็กของเว็บไซต์โปรดของคุณ เข้าถึงหน้าเว็บโปรดของคุณได้ทันทีอย่างรวดเร็วจากแท็บใหม่ใดๆ ก็ตาม การเรียกดูส่วนตัว เปิดหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตนเมื่อคุณไม่ต้องการบันทึกไว้ในประวัติการเรียกดูของคุณ 
ข้อดีของการใช้Google chrome
1. ขนาดไฟล์น้อย
2. โหลดได้เร็ว
3. Interface สวยงาม มีstyleสวย
4. ถ่าย bookmarks จาก internet explorer และ Firefox ได้ (ตัวอื่นจะทำไม่ได้)
5. หน้าต่างดาวน์โหลด อยู่ด้านล่างทำให้ไม่เกะกะเหมือนตัวอื่น ที่เด้งขึ้นมาอีกหน้าต่างนึง
6. มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้เล่นเยอะเลย
7. ช่องค้นหาจาก Google สะดวกรวดเร็ว เพราะใส่ได้ทาง Address Bar เลย
8. แทบ Status bar auto hide ทำให้ไม่รกตา และเปลืองพื้นที่
9. หน้าแรก มี เว็บที่เราเข้าบ่อยสุดให้ดู เป็น interface อย่างงาม สามารถค้นหาประวัติการเข้าเว็บของเราได้อย่างละเอียด จาก แถบด้านขวามือ (การค้นหา) และยังมี Bookmarks ล่าสุดบอกอีกด้วย
10. สามารถดึง Application ของ Google มาใช้งานอย่างสะดวกมากมาย
ข้อเสียของการใช้Google chrome
1.     ตอนพิมพ์ในช่อง พอเราเอาเมาส์ไปคลิกที่อื่นจะกลับมาแก้อีกที ถ้าเป็นภาษาไทย ตัว cursor จะเลื่อนไปอยู่ตรงด้านหน้าสุด
2. การคลุมข้อความทำยากมาก  มันต้องใช้ความพยายามอย่างสูง

3.ไตเติ้ลบาร์สั้น
4. เข้าเว็บสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ได้เช่นเดียวกับFirefox
5.ยังซัพพอร์ตภาษาไทยได้ไม่ดีเท่าที่ควร

6. การลบตัวอักษร ถ้าคำที่มีสระอยู่ด้วยมันจะลบไปหมดเลย


 5. Internet Explorer 
 คือ โปรแกรม Internet Explorer เรียกย่อๆ ว่า IE เป็นโปรแกรมเบราเซอร์ที่ใช้ในการเปิดเว็บเพจในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็น Application Software ที่ผลิตโดยบริษัท Microsoft ส่วนประกอบที่สำคัญของโปรแกรม
ข้อดีของการใช้ Internet Explorer
1. เป็นบราวเซอร์ที่คนใช้งานมากที่สุดในโลก ได้รับการรองรับจากทุกเว็บไซต์
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ง่าย ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพราะไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้เลย
2. เว็บไซต์เกมทุกเว็บหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆรองรับโค้ดของ IE

ข้อเสียของการใช้ Internet Explorer
1.IE เปิดหลาย ๆ แท็บค้างแน่นอน ยิ่งถ้าเปิดเกมส์ไว้ด้วย
2.ช้าที่สุด เมื่อเทียบกับบราวเซอร์อื่นๆ
3. ใช้หน่วยความจำคอมพิวเตอร์มากที่สุด ซึ่งอาจทำให้เครื่องช้าไปด้วย














ความหมาย ประเภท ลักษณะการทำงานของ Search engine


ความหมายของSearch Engine

Search Engine คือ เครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหา หรือ Keyword (คีย์เวิร์ด) เข้าไปที่ช่อง Search Box แล้วกด Enter ข้อมูลที่เราค้นหาก็จะถูกแสดงออกมาอย่างมากมาย เพื่อให้เราเลือกข้อมูลตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด โดยลักษณะการแสดงผลของ Search Engine นั้นจะทำการแสดงผลแบบ เรียงอันดับ Search Results ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์


ประเภทของSearch Engine

Search Engine มี3ประเภท (ในวันที่ทำการศึกษาข้อมูลนี้และได้ทำการรวบรวมข้อมูล สรุปได้3 ประเภทหลัก) โดยมีหลักการทำงานที่ต่างกัน และ การจัดอันดับการค้นหาข้อมูลก็ต่างกันด้วย  เพราะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกันนี่เองทำให้ โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเภทด้วยกัน แต่ที่พอสรุปได้ก็มีเพียง3 ประเภทหลัก ๆ ดังที่จะนำเสนอต่อไปนี้


ประเภทที่ 1 Crawler Based Search Engines

Crawler Based Search Engines คือ เครื่องมือการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยการบันทึกข้อมูล และ จัดเก็บข้อมูลเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นจำพวก Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากให้ผลการค้นหาแม่นยำที่สุด และการประมวลผลการค้นหาสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน

โดยมีองประกอบหลักเพียง 2 ส่วนด้วยกันคือ
1. ฐานข้อมูล โดยส่วนใหญ่แล้ว Crawler Based Search Engine เหล่านี้จะมีฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง ที่มีระบบการประมวลผล และ การจัดอันดับที่เฉพาะ เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างมาก
2. ซอฟแวร์ คือเครื่องมือหลักสำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Serch Engine ประเภทนี้ เนื่องจากต้องอาศัยโปรแกรมเล็ก ๆ (ชนิดที่เรียกว่า จิ๋วแต่แจ๋ว) ทำหน้าที่ในการตรวจหา และ ทำการจัดเก็บข้อมูล หน้าเพจ หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ในรูปแบบของการทำสำเนาข้อมูล เหมือนกับต้นฉบับทุกอย่าง ซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม Spider หรือ Web Crawler หรือ Search Engine Robots
ตัวอย่างหนึ่งของ Crawler Based Search Engine ชื่อดัง http://www.google.com


 ประเภทที่ 2 Web Directory หรือ Blog Directory

    Web Directory หรือ Blog Directory คือ สารบัญเว็บไซต์ที่ให้คุณสามารถค้นหาข่าวสารข้อมูล ด้วยหมวดหมู่ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน ในปริมาณมาก ๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลืองครับ ซึ่งจะมีการสร้าง ดรรชนี มีการระบุหมวดหมู่ อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ตามหมวดหมู่นั้น ๆ ได้รับการเปรียบเทียบอ้างอิง เพื่อหาข้อเท็จจริงได้ ในขณะที่เราค้นหาข้อมูล เพราะว่าจะมีเว็บไซต์มากมาย หรือ Blog มากมายที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันในหมวดหมู่เดียวกัน ให้เราเลือกที่จะหาข้อมูลได้ อย่างตรงประเด็นที่สุด (ลดระยะเวลาได้มากในการค้นหา) ซึ่งจะขอยกตัวอย่างดังนี้



    ODP Web Directory ชื่อดังของโลก ที่มี Search Engine มากมายใช้เป็นฐานข้อมูล Directory

    1. ODP หรือ Dmoz ที่หลาย?ๆ คนรู้จัก ซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่แห่งนี้เกือบทั้งสิ้น เช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีกมากมาย ODP มีการบันทึกข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลก รวมถึงภาษาไทย
            (URL : http://www.dmoz.org )



    2. สารบัญเว็บไทย SANOOK ก็เป็น Web Directory ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกัน และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองไทย                                          

          (URL : http://webindex.sanook.com )


    3. Blog Directory อย่าง BlogFlux Directory ที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกมากมายตามหมวดหมู่ต่างๆ หรือ Blog Directory อื่น ๆ ที่สามารถหาได้จาก Make Many แห่งนี้



ประเภทที่ 3 Meta Search Engine

    Meta Search Engine คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษา HTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex Editor ด้วยภาษา HTML นั่นเองเช่น ชื่อผู้พัฒนา คำค้นหา เจ้าของเว็บ หรือ บล็อก คำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อ
 
    ผลการค้นหาของ Meta Search Engine นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิด เนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือ ผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บ หรือ บล็อกของตนเอง และ อีกประการหนึ่งก็คือ มีการอาศัย Search Engine Index Server หลาย?ๆ แห่งมาประมวลผลรวมกัน จึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร.

    มาถึงตอนนี้หลาย ๆ ท่านที่เคยสงสัยว่า “Search Engine คืออะไรคงได้หายสงสัยกันไปบ้างแล้วและเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของ Search Engine กันมากขึ้น เพื่อจะได้เลือกใช้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการของเราในการค้นหาข่าวสารข้อมูล สำหรับบทความ “Search Engine คืออะไรนี้หากขาดตกบกพร่องประการใด หรือ ไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนท่านสามารถติชม หรือ ให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ผ่าน Comments ของบทความชุดนี้เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงและแก้ไขให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดและ เป็นประโยชน์สำหรับ ผู้ที่ทำการค้นคว้างข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้งาน



ลักษณะการทำงานของ Search Engine  

ประกอบไปด้วย ๓ ส่วนหลัก ๆ คือ

๑. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน

๒. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด

๓.โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้ การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว การกลั่นกรองผลที่ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล

ดังนั้น  การเลือกใช้เครื่องมือในการค้นหาจะต้องเข้าใจว่า ข้อมูลที่ต้องการค้นหานั้นมีลักษณะอย่างไร มีขอบข่ายกว้างขวางหรือแคบขนาดไหน แล้วจึงเลือกใช้เว็บไซต์ค้นหาที่ให้บริการตรงกับความต้องการ


วิธีการทำงานของ Search Engine

โดยทั่วไปเว็บไซต์ Search engines มีกระบวนการทำงาน (Sullivan, 2001) แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ

ใช้โปรแกรมรวบรวมเอกสารเว็บ (spider หรือ  crawler) สำรวจและอ่านหน้าเว็บจากโดเมนต่างๆ  และหากพบ links ก็จะทำการติดตาม links ภายใน site จนครบ ซึ่งจากการทำงานในลักษณะโยงใยนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า spider หรือ crawler จากนั้น spider จะนำข้อมูลเว็บดังกล่าวไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Search Engine และ spider จะกลับไปตรวจสอบข้อมูลในเว็บนั้น ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก 1 หรือ 2 เดือน เพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลง
จัดทำรายการดรรชนี  
ข้อมูลที่โปรแกรม spider พบจะถูกทำสำเนาและส่งมาจัดเก็บที่รายการดรรชนี (index  หรือ catalog) ตามบัญชีดรรชนีที่ (มนุษย์) กำหนดไว้
หากข้อมูลที่เว็บต้นฉบับมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในสมุดดรรชนีจะเปลี่ยนแปลงด้วย  
โปรแกรมสืบค้น (Search engine software)
จะเป็นโปรแกรมส่วนที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อเข้าใช้บริการ
จะทำหน้าที่ในการค้นคืนข้อมูลจากฐานข้อมูลของ search engine
จะเริ่มต้นการทำงานเมื่อผู้ใช้ป้อนคำค้น
โปรแกรมจะนำคำค้นของผู้ใช้ไปจับคู่กับดรรชนีในฐานข้อมูล
แล้วทำการดึงข้อมูล (เอกสารเว็บ) ที่ตรงกับคำค้นออกมา
และจัดลำดับผลการค้นตามระดับความเกี่ยวข้องที่โปรแกรมประเมินได้  
Search engine แต่ละตัวจะใช้ตรรกะที่แตกต่างกันไป
ตัวอย่างการสร้างเกณฑ์ในการกำหนดค่าน้ำหนักให้กับคำดรรชนีของ Search engine อาจจัดลำดับ  ดังนี้ (Bradley, 2002)
1. จะให้ค่าน้ำหนักความเกี่ยวข้องกับคำค้นมากที่สุด (ตามที่มนุษย์ได้ตั้งค่าโปรแกรมไว้)
2. คำ หรือวลี ที่ปรากฏใน Meta tag elements (เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนเอกสาร html)
3. คำ หรือวลี ที่ปรากฏใน Title tag (ปรากฏที่บรรทัดแรกของ Title bar)
4. คำ หรือวลี ที่ปรากฏใน Main heading และ Sub heading (ข้อความที่เป็นขนาดใหญ่  ขนาดรอง ในแต่ละ Web page)
5. จำนวนครั้งที่ คำ หรือวลี ปรากฏในส่วนเนื้อหาของเอกสาร
6. ความถี่ที่เว็บอื่นๆ เชื่อมโยงเข้ามา (มีการตรวจสอบโดยใช้โปรแกรม)





Search Engine 



          การค้นหา bing ของประเทศไทย คือจะมีการเซ็นเซอร์คำบางคำที่ไม่สุภาพหรือส่อไปทางลามกอนาจารด้วย ซึ่งจะมีคำเตือนขึ้นมาและไม่แสดงผล ได้ลองใน bing USA ไม่มีการเซ็นเซอร์ ถ้ามีการพัฒนาเรื่องผลการค้นหาที่ดีพอกับ Google ก้เป็น Search Engine อีกตัว ที่น่าจะให้เด็กๆ ใช้ 

Ask ( http://www.ask.com ) 


          โซเชียลมีเดียตัวหนึ่งซึ่งเปิดให้ใช้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วโลกมาแล้วกว่า 4 ปี และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้เล่นอินเตอร์เน็ต โดยมีรูปแบบการใช้งานเป็นการตั้งคำถามและการตอบกันผ่านเว็ปไซต์ ask.fm  หรือผ่านแอพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ทั้งระบ andriod และ ios ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถเลือกตอบคำถามผู้ที่ตั้งคำถามมาหาเราหรือไม่ก็ได้ด้วยเช่นกัน 

Google  ( www.google.com )


          Google เป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตเป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านฐานข้อมูลเพื่อให้บริการแก่เว็บไซต์ค้นหาอื่นๆ ปัจจุบันได้เปิดเว็บไซต์ค้นหาเอง มีฐานข้อมูลมากกว่าสามพันล้านเว็บไซต์และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ คือเป็นเว็บไซต์ค้นหาที่สนับสนุนภาษาต่างๆ มากกว่า 80 ภาษาทั่วโลก
(รวมทั้งภาษาไทยและมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ให้บริการในส่วนต่างๆ ของโลกมากถึง 36 ประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย ซึ่งบริการค้นหาของ Google จะแยกฐานข้อมูลออกเป็น 4 หมวด และแต่ละหมวดมีการค้นหาแบบพิเศษเพิ่มเติมด้วย คือ 
-         เว็บ : เป็นการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก
-         รูปภาพ : เป็นการค้นหารูปภาพหลากหลายฟอร์แมตจากเว็บไซต์ต่างๆ
-         กลุ่มข่าว : เป็นการค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจจากกลุ่มข่าวต่างๆ
-         สารบบเว็บ : การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่แยกออกเป็นหมวดหมู่


Yahoo    ( http://www.yahoo.com ) 


          Yahoo (อ่านว่า ยา-ฮูเป็น Search Engine ที่เก่าแก่และเรียกว่ามีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งในอาณาจักรอินเทอร์เน็ต จุดเด่นหลักของเว็บไซต์นี้คงมาจากความสามารถในการค้นหาข้อมูลที่ทำได้อย่างรวดเร็ว จุดหนึ่งที่ทำให้ Yahoo โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือการแบ่งเว็บไซต์ที่เก็บในฐานข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่และยังมีการโยงใยระหว่างกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ


Sanook  ( http://www.sanook.com )



เป็นเว็บไซต์ชื่อดังของไทยที่เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลของไทยที่มีข้อมูลให้ค้นหามากมายทั้งของไทยและทั่วโลกซึ่งมีทั้งแบบนามานุกรมและคำค้น ซึ่งจะบอกที่อยู่ของเว็บไซต์และมีคำอธิบายเว็บที่หาอย่างเข้าใจง่าย และยังสามารถส่งเว็บไซต์นี้ให้เพื่อนๆ ทางอีเมล์ด้วย



 ประโยชน์ของการค้นข้อมูลโดยใช้ search engine

        1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว
        2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย
        3. สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลและซอร์ฟแวร์ เป็นต้น
        4. มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
        5. รองรับการค้นหา ภาษาไทย

แหล่งที่มา www.gotoknow.org/posts/409203

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น